ความฝันสำหรับทุกคน

ความรับผิดชอบต่อสังคม

ความฝันสำหรับทุกคน

ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศและงานฝีมือฝรั่งเศส แบรนด์ Dior ตระหนักดีถึงบทบาทของแบรนด์ทางวัฒนธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม ตั้งแต่ปี 1947 เราได้ยึดมั่นในการสานต่อความเชี่ยวชาญ ค่านิยม และความคิดสร้างสรรค์ของเรา จุดหมายของเราคือการมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่รวบรวมความหลากหลายและยั่งยืนมากขึ้น พร้อมมอบอิสระในการใฝ่ฝันและเปลี่ยนแปลงอนาคตให้กับทุกคน

 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ความสามัคคี ความเท่าเทียมของโอกาส ความหลากหลาย หรือการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและงานหัตถศิลป์ Dior ล้วนดำเนินการด้วยความเชื่อมั่นเพื่อส่งเสริมคุณค่าที่เป็นสากล ครอบคลุม และยั่งยืน ทั้งหมดนี้เพื่อมอบพลังให้กับแต่ละบุคคลในทุกๆ ที่

© Flor Garduño

“ด้วยสัญชาตญาณอันลึกซึ้ง ผู้หญิงเข้าใจว่าผมไม่ได้ฝันแค่จะทำให้พวกเธอสวยขึ้น แต่มีความสุขมากขึ้นด้วย” – Christian Dior

การส่งเสริมศักยภาพและการตัดสินใจของผู้หญิง

การก่อตั้งแบรนด์ในปี 1946 ทำให้ความฝันของ Christian Dior เป็นความจริง ด้วยการพลิกโฉมวงการแฟชั่นผ่าน New Look ผลงานสร้างสรรค์ของเขาได้สร้างวิสัยทัศน์ใหม่เกี่ยวกับความเป็นหญิง ที่มีเสรีภาพ กล้าหาญ และเฉิดฉาย วิสัยทัศน์นี้ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทุกยุคสมัย ตั้งแต่เริ่มต้น ความเข้มแข็งและอิสระของผู้หญิงได้ฝังรากลึกในดีเอ็นเอของ Dior และเป็นหนึ่งในเสาหลักของพันธกิจทางสังคมทั่วโลกของแบรนด์

การให้คำปรึกษา การศึกษา และความเป็นผู้นำ

โครงการ Women@Dior (https://womenatdior.com/) ได้เปิดตัวร่วมกับ UNESCO โดยเป็นโครงการนานาชาติที่โดดเด่นในการให้คำปรึกษา การศึกษา และการบ่มเพาะความสามารถ โครงการร่วมกับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย 75 แห่งทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน โครงการได้สนับสนุนผู้หญิงกว่า 2,000 คน จาก 90 เชื้อชาติ ใน 60 ประเทศ เพื่อช่วยพัฒนาความมั่นใจ ความสามารถ ความเป็นผู้นำ และการตัดสินใจด้วยตนเอง

 

เพื่อเป็นการต่อยอดจากความร่วมมือกับ UNESCO ทาง Dior ยังได้จัดตั้งความร่วมมือระยะยาวกับมหาวิทยาลัย Ewha ในกรุงโซล นับตั้งแต่ปี 2022 ได้มีการจัดโครงการการศึกษาพิเศษ รวมถึงทุนการศึกษาและการให้คำปรึกษา โครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิงและการสนับสนุนชุมชนในท้องถิ่น

านฝีมือชั้นเลิศ มรดกที่มีชีวิต

การถ่ายทอดตัวตนของเรา สิ่งที่เรารู้ และสิ่งที่เราสร้างสรรค์ คือหัวใจสำคัญของดีเอ็นเอของ Dior

 

การสรรเสริญความชำนาญและช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ

แบรนด์อนุรักษ์งานฝีมือชั้นเลิศผ่านความมุ่งมั่นที่ชัดเจนหลายประการ ได้แก่ การจัดนิทรรศการและกิจกรรมระดับนานาชาติเพื่อแสดงให้เห็นถึงอาชีพด้านการสร้างสรรค์ การขาย และงานฝีมือ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดอาชีพใหม่ๆ อีกทั้งยังมีการฝึกอบรมและสรรหาบุคลากรรุ่นใหม่ และการสรรเสริญผลงานของช่างฝีมือของเรา ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ความเป็นเลิศของ Dior อย่างแท้จริง

 

ที่ Christian Dior Couture เราให้เกียรติช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญของเราอย่างมาก พวกเขาเป็นตัวแทนทักษะชั้นเลิศอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงได้รับเชิญเข้าชุมชน LVMH Virtuosos ในตำแหน่งกิตติมศักดิ์ และมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการพัฒนาตนเอง มาสเตอร์คลาส และการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญแบบพิเศษ เช่น พระราชวังแวร์ซายในฝรั่งเศส นับตั้งแต่แรก การส่งต่อความรู้ การฝึกอบรม และการรักษามาตรฐานความเป็นเลิศของงานฝีมือระดับสูง ล้วนเป็นหัวใจของแบรนด์

การส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะ

ด้วยแรงผลักดันจากค่านิยมของแบรนด์และความผูกพันอันลึกซึ้งกับศิลปะทุกแขนง Dior ได้มีโครงการอุปถัมภ์ศิลปวัฒนธรรมหลากหลายโครงการ เพื่อสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมและมรดกทางศิลปะในระดับสากล

 

ในฝรั่งเศส Dior ยึดมั่นในการอนุรักษ์และยกระดับมรดกทางวัฒนธรรมผ่านโครงการสำคัญต่างๆ เช่น การปลูกต้นไม้ใหม่ใน Tuileries Garden การบูรณะเพดานในห้อง Diana ที่พระราชวังแวร์ซาย และการปรับปรุง Queen’s House ใน Trianon Hamlet

 

นอกจากนี้ แบรนด์ยังสนับสนุน Rodin Museum ซึ่งรวมถึงการจัดหาชิ้นงานปั้นดินเผาที่เก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่งของศิลปิน และยังให้การสนับสนุน École Militaire ที่แบรนด์มีส่วนร่วมในการบูรณะ Governor’s Salons

 

โครงการเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับช่างฝีมือจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ ช่างหุ้มเบาะ ช่างทำสวน หรือช่างมุงหลังคา ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นเลิศของงานฝีมือฝรั่งเศส งานแฟชั่นโชว์ของ Dior ที่จัดขึ้นตามสถานที่สำคัญเหล่านี้ยังช่วยส่งเสริมความโดดเด่นทางวัฒนธรรมในเวทีระดับโลกอีกด้วย

 

ในระดับสากล Dior ให้การสนับสนุนการอนุรักษ์มรดกศิลปะและวัฒนธรรมในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น ในอิตาลี แบรนด์ได้ร่วมมือกับ Venetian Heritage Foundation เพื่อบูรณะสถานที่สำคัญในเมืองเวนิส เช่น Porta Magna ของ Arsenal และพิพิธภัณฑ์ Ca’ d’Oro ที่นครวาติกัน Dior ได้ร่วมมือกับหอสมุด Apostolic จัดนิทรรศการ En Route และได้จัดโครงการทุนการศึกษาที่มุ่งเน้นการแปลงบันทึก Poma.Periodici ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ส่วนในสหรัฐอเมริกา Dior ได้ร่วมมือในระยะยาวกับพิพิธภัณฑ์ Brooklyn เพื่อแสดงให้เห็นถึงพันธกิจทางวัฒนธรรมของแบรนด์ ในประเทศจีน Dior ให้การสนับสนุน Museum of Art Pudong (MAP), Chen Yifei Retrospective, ศิลปิน Kenny Scharf และนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย Beijing Dangdai

ส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและกัน

แบรนด์ดำเนินการอย่างสม่ำเสมอเพื่อต่อต้านการเลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ และเฉลิมฉลองเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล Dior มุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ครอบคลุมทุกคน มีความเคารพ และสนับสนุนการพัฒนาทั้งในระดับบุคคลและวิชาชีพ ภายใต้แนวคิดนี้ Dior ได้เพิ่มพูนความรู้ให้กับพนักงาน ผ่านโครงการฝึกอบรมนานาชาติ และเครือข่าย All LVMH Pride

บุคคลทุพพลภาพที่ Dior

ตั้งแต่ปี 2013 Dior ได้ยึดมั่นในการช่วยให้บุคคลทุพพลภาพเข้าสู่สังคม  ผ่านการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในการสรรหาบุคลากร การฝึกอบรม และการรักษางาน


แบรนด์ให้การสนับสนุนโครงการในท้องถิ่น เช่น Runway of Dreams ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งเสริมการเข้าถึงเสื้อผ้าดัดแปลง แบรนด์ร่วมมือกับ art4sport ONLUS ในอิตาลี ซึ่งก่อตั้งโดยนักกีฬาพาราลิมปิก Bebe Vio เพื่อช่วยให้เยาวชนผู้ทุพพลภาพสามารถมีส่วนร่วมในการเล่นกีฬาได้ โดยใช้อุปกรณ์พิเศษ ส่วนในญี่ปุ่น โครงการ Dior Farm ได้นำไปสู่การสร้างฟาร์มในเมืองจำนวนสามแห่ง เพื่อมอบสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสมแก่ผู้ที่มีความทุพพลภาพ โดยผลผลิตจากฟาร์มจะนำมาแบ่งให้กับพนักงานและองค์กรการกุศล
 

การดำเนินการเพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียม

Dior ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาและการจ้างงานสำหรับเยาวชนในหลายภูมิภาคของโลก ตัวอย่างเช่น ในฝรั่งเศส แบรนด์ให้การสนับสนุนเยาวชนในเขต Seine-Saint-Denis เพื่อสร้างเส้นทางอาชีพ ในอินเดีย Dior สนับสนุน Centum Foundation ซึ่งให้การฝึกอบรมทางเทคนิคกับคน 240 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตรีที่อพยพเข้ามา ซึ่งช่วยให้พวกเธอทำงานในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอหรือยานยนต์ได้ ส่วนในประเทศจีน Dior ร่วมมือกับ Dongrun Foundation เพื่อให้เยาวชนจากพื้นที่ชนบทสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้

ความสามัคคีผ่านการลงมือปฏิบัติ

Dior ยึดมั่นในการมีส่วนร่วมสร้างสังคมที่มีความเอื้อเฟื้อมากยิ่งขึ้น โดยให้การสนับสนุนด้านนวัตกรรมและการวิจัยทางการแพทย์ โดยเฉพาะในด้านโรคทางพันธุกรรม ผ่าน Imagine Institute รวมถึงการวิจัยโรคมะเร็ง ผ่านองค์กรอย่าง Odyssea และ American Cancer Society 

 

นอกจากนี้ แบรนด์ยังได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เปราะบางที่สุด ร่วมกับองค์กรอย่าง UNICEF, สภากาชาด และองค์กรใหญ่อื่นๆ

 

การสนับสนุนกิจกรรมการกุศลเป็นหัวใจสำคัญในโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของเรา และเรายังเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้มีส่วนร่วมในโครงการที่เป็นรูปธรรม ซึ่งสร้างผลกระทบในทางบวกต่อสังคม

การสนับสนุนงานวิจัยทางการแพทย์

Dior ให้การสนับสนุนการวิจัยทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการร่วมมือกับสถาบัน Imagine ซึ่งเป็นศูนย์กลางอ้างอิงด้านโรคพันธุกรรมที่โรงพยาบาล Necker-Enfants Malades นอกจากนี้ แบรนด์ยังมีบทบาทในการต่อสู้กับโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว ซึ่งเป็นความร่วมมือกับโรงพยาบาล Robert Debré ในแต่ละปี Dior ให้การสนับสนุนโครงการนี้ผ่านการเข้าร่วมงาน Dîner des Maisons engagées ที่ LVMH จัดขึ้น

 

นอกจากนี้ Dior ยังส่งเสริมพนักงานทั่วโลกให้เข้าร่วมกิจกรรม Pink October โดยมีพนักงานเกือบ 4,000 คนเข้าร่วมการวิ่งการกุศล Odyssea เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านม

พนักงานของเราลงมือปฏิบัติ

Dior Day for Good เป็นโครงการสำคัญที่เปิดโอกาสให้พนักงานของแบรนด์ทุกคนทั่วโลกอุทิศหนึ่งวันให้กับกิจกรรมการกุศลที่ตนเองให้ความสำคัญ ในโลกที่เผชิญกับความท้าทายมากมาย Dior สนับสนุนแนวคิดเรื่องความรับผิดชอบร่วมกัน และส่งเสริมให้ทุกคนลงมือทำ


โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของแบรนด์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งรวมถึงการทำให้ความสามัคคีเป็นความจริง  และเปิดโอกาสให้แต่ละคนมีส่วนร่วมสร้างอนาคตที่มีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน พนักงานทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับองค์กรการกุศลต่างๆ ได้ โดยมีองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนแล้วกว่า 250 แห่งทั่วโลกผ่านโครงการนี้
 

การช่วยเหลือพนักงานที่เผชิญกับความลำบากส่วนตัว

เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ส่วนตัวที่ร้ายแรงและเร่งด่วน Dior ได้เปิดโอกาสให้พวกเขาขอรับความช่วยเหลือจากกองทุน LVMH Heart Fund ได้ ซึ่งมีเงินทุนสนับสนุนจำนวน 30 ล้านยูโร และมีสายด่วนเฉพาะกิจ กองทุนนี้มอบความช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉิน พร้อมการสนับสนุนด้านสังคมและจิตวิทยา โดยการดำเนินการทั้งหมดจะเก็บเป็นความลับอย่างเข้มงวดเพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ต้องการความช่วยเหลือ

 

สิ่งแวดล้อม

ห่วงโซ่อุปทานที่มีความรับผิดชอบ